ผู้เสียหายหลายสิบชีวิต เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิด ปิยะธิดา บ้านฟองน้ำ หลังเชิดเงินผู้ลงทุนหนีหาย ผู้เสียหายจากการออมเงินออนไลน์กับบ้านฟองน้ำหลายสิบคนได้เข้าเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อแจ้งความ น.ส.ปิยะธิดา หรือ ฟองน้ำ อายุ 25 ปี ที่อ้างตัวเป็นไฮโซใน จ.อุบลราชธานีและชักชวนให้ผู้สนใจร่วมลงทุนออมเงิน พร้อมอวดอ้างว่า ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อ 15 วัน และ ร้อยละ 10 ต่อเดือน
ส่งผลให้ผู้เสียหลายหลายคนทั้งในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง
นำเงินมาร่วมลงทุนดอกเบี้ยจำนวน 100 ราย มียอดเงินที่คนหลงเชื่อมาร่วมลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ก่อนที่จะปิดแอพพลิเคชั่นหลบหนีไป นำไปสู่การแจ้งความ บ้านฟองน้ำ
น.ส.จอย หนึ่งในผู้เสียให้สัมภาษณ์ว่า ตนติดตามเฟสบุ๊คและไอจี ของนางสาวปิยะธิดามาประมาณ 2 ปี โดยมีการโพสต์เชิญชวนร่วมลงทุนโดยให้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์กำไรร้อยละ 5 เปอร์เซ็นต์ต่อ 15 วัน และ 10 เปอร์เซ็นต์ ต่อ 30 วัน ด้วยความที่มีโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือ มีการโพสต์การทำงานเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้าง ซื้อขายรถยนต์หรูมือสอง มานานกว่า 2 ปี ทำให้ตนเองไว้ใจจึงได้โอนเงินร่วมลงทุนไปครั้งแรกประมาณ 3 หมื่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เมื่อครบกำหนดตนก็ได้ผลตอบแทนกลับมาจริงถึง 2 ครั้ง ทำให้ตนเองมั่นใจแต่ตนก็หยุดไม่ได้ลงทุนอีก
จนกระทั้งช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา นางสาวปิยะธิดา ได้มีการโพสต์ชวนลงทุนอีกครั้ง ครั้งนี้มีความพิเศษ ซึ่งให้กำไรตอบแทนถึงร้อยละ 10 ต่อ 15 ทำให้ตนกลับไปร่วมลงทุนออมเงินด้วยเงิน 2 หมื่นบาท
ผ่านไปสอง วันนางสาวปิยะธิดาก็ทักมาส่วนตัวบอกว่ามียอดออมเพิ่มในอัตราส่วนแบ่งกำไรร้อยละ 10 เหมือนเดิม ตนจึงได้ลงเพิ่มไปอีก 35,000 บาท รวมทั้งหมด 55,000 บาท เมื่อครบกำหนดนางสาวปิยะธิดาก็นิ่งหายไม่ตอบไลน์อีกเลย
นางสาวจอย ผู้เสียหายยังเล่าอีกว่า หลังจากที่นางสาวปิยะธิดา เงียบหายไปเริ่มมีการโพสต์ถามกันในโซเชียลว่ามีใครโดนแบบนี้บ้าง จนพบว่ามีผู้เสียหายที่โดนลักษณะเดียวกันจำนวนมากจนทำให้มีการตั้งกลุ่มไลน์ผู้เสียหายบ้านฟองน้ำขึ้นมา เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายมากกว่า 400 คน ความเสียหายที่มีการพูดคุยและรวบรวมในกลุ่มรวมเป็นเงินประมาณ 600 ล้านบาท เฉลี่ยความเสียหายอยู่ที่ 2 หมื่น ถึง 30 ล้านบาท ผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจเป็นคนมีหน้าตาในสังคม ครู หมอ ทนายความ แม่บ้าน แม่ค้าออนไลน์ แต่ทั้งนี้ผู้เสียหายไม่ค่อยออกมาพูดเพราะผู้เสียหายบางรายเอาเงินที่เตรียมแต่งงาน เงินเก็บ เงินจำนองที่ดินที่นา มาลงทุนหวังกำไรโดยที่คนในครอบครัวไม่รู้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีผู้เสียหายจากบ้านฟองน้ำทั้งแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และประสงด์ดำเนินคดีกับ น.ส.ปิยะธิดา แล้วประมาณ 30 ราย และหากรวมท้องที่อื่นๆในจังหวัดใกล้เคียง น่าจะมีผู้เสียหายรวมกันกว่า 100 ราย
เบื้องต้นรับคำร้องทุกข์ พร้อมแนะนำให้ผู้เสียไปเตรียมเอกสารการสนทนา การโอนเงิน เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน ส่วนตัวของน.ส.ปิยะธิดา ทราบว่าหลบออกไปจากจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว เมื่อได้หลักฐานครบ ก็จะเสนอศาลออกหมายจับตัวมาดำเนินคดีต่อไป
‘เมธา เจ้าของดารุมะ’ นอนคุกหลังศาลไม่ให้ประกันตัว
เมธา เจ้าของดารุมะ ล่าสุด ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
กรณีเจ้าของร้านดารุมะ ซูชิ ฉ้อโกงผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก จากกรณีเปิดจำหน่ายคูปองบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น แล้วปิดกิจการหนีไปต่างประเทศ ก่อนจะมาถูกจับกุมตัววานนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิความคืบหน้าหลังจาก พนักงานสอบสวนกก.1 บก.ปคบ.ได้ยื่นคำร้องฝากขังทางไกล
ล่าสุด ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว นายเมธา อายุ 39 ปี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดารุมะ ซูชิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1267/2565 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
สำหรับ นายเมธา ถูกจับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิหลังเดินทางกลับจากสหรัฐ พร้อมกับตรวจยึดของกลางเป็นเงินสด จำนวน 20,186 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 710,000 บาท) ตรวจพบในกระเป๋าเดินทางของผู้ต้องหาขณะจับกุมตัว
โดยก่อนหน้านี้ นายเมธา ให้การว่า ทำธุรกิจร้านอาหารมาตั้งแต่ปี 2559 แต่ต่อมาต้องประะสบกับปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงตัดสินใจขายคูปองบุฟเฟต์ ราคา 199 บาท แต่กิจการ ไม่สามารถไปต่อได้ จึงตัดสินใจที่จะหลบหนีไปที่สหรัฐ ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจบินกลับมาที่ประเทศไทย เจ้าตัวให้เหตุผลในการสอบปากคำว่า เพราะต้องการกลับมาสู้คดี
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป